พฤติกรรมของเด็กที่กำลังจะติดโรคตาแฉะ อาจส่งผลให้เยื่อบุตาของเด็ก อักเสบ อาจส่งผลทำให้ตาบอดได้ในอนาคต จุดสังเกตพฤติกรรมของเด็กที่บ่งบอกว่ากำลังจะเป็นโรค ตาแฉะ เริ่มแรก เด็กจะขยี้ตาอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีอาการคันบริเวณเปลือกตา สิ่งต่อมือ คือน้ำตาของเด็กจะไหลออกมาเอง เนื่องจากการขยี้ตาส่งผลต่อต่อมน้ำตากระจายตัว จึงทำให้บางครั้งน้ำตาจะไหลออกมาเองอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้น
เยื่อบุดวงตาอักเสบหรือที่เราเรียกกันว่าโรคตาแดง มีอยู่ 2 วิธี คือ
- เปลือกตาติดเชื้อ อาการจะเป็นลักษณะติดเชื้อจากไวรัสต่างๆ โดยจากการสัมผัสจากสิ่งที่สกปรก เช่นมือ แล้วสัมผัสกับดวงตาอยู่บ่อยครั้ง อาจเกิดการอักเสบต่อดวงตา และเกิดเป็นโรคตาแฉะ หรือ โรคตาแดงได้ง่าย
- ชนิดที่ไม่ได้ติดเชื้อ ลักษณะของโรคจะมีสิ่งสกปรก หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าเปลือกตาของเด็ก และขยี้ตาอยู่บ่อยๆ สาเหตุนี้ก็อาจจะทำให้กลายเป็นตาแดงในอนาคต
ตาแฉะอาจเกิดขึ้นได้ตอดแรกคลอดของเด็กทารก
เด็กทารกที่เพิ่งคลอดใหม่ๆ จะไม่ค่อยมีภูมิคุ้มกันมากเท่าผู้ใหญ่ โรคที่เกิดตามมา เช่นโรคติดเชื้อทางด้านตา โรคตาแดง โรคตาแฉะ หลักๆสาเหตุจะมีไม่ค่อยมาก เช่น แม่เด็กติดเชื้อมาก่อน ทำให้เด็กมีโอกาสติดเชื้อมาก สิ่งแวดล้อม หรือห้องคลอดที่สกปรก ก็อาจจะทำให้เด็กแรกเกิดนั้นเป็นโรคที่รุนแรงอย่าง โรคติดเชื้อที่บุตา หากไม่รักษาอย่างท่วงที อาจส่งผลอันตราต่อโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับดวงตาของลูกเราก็เป็นได้
อาการที่พบเห็บกับเด็กที่เป็นโรคเยื่อบุตา
- ลักษณะเด็กจะคันตา และขยี้ตาบ่อยๆ
- ตาแดง แบบไม่มีสาเหตุ
- มีขี้ตาแฉะ เยิ้มๆ แต่ถ้าหากมีโรคแทรกซื้อจะเกิดสีเหลืองๆ เขียวๆใต้ตา
- น้ำตาไหลบ่อย และมองที่แสงได้ไม่นาน
- สายตาพล่ามัว เหมือนรางๆมองอะไรไม่ค่อยชัด